วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556


แต่ละคนมีวิถีในการใช้ชีวิตที่ต่างกันไป
ผลที่ได้ในชีวิตจึงต่างกันไป...

เนื้อหาที่ผมนำมาให้อ่าน เป็นเนื้อหาที่ผมอ่านไปเมื่อวันก่อน
เห็นว่าน่าจะมีประโยชน์ จึงนำมาแบ่งปัน

สิ่งนั้นคือ... " กฎแห่งการใช้ชีวิต (Rules of life) "

1.) ชีวิตนี้มันสั้น “จงใช้เวลาทุกวินาทีให้มีคุณค่ากับตัวเองและคนอื่นให้มากที่สุด”
2.) รู้ว่าชีวิตนี้...ตัวเองต้องการอะไร
3.) มองหาเป้าหมาย แล้วออกเดินทางสู่เป้าหมายนั้นซะ !
4.) ห้ามล้มเลิก !
5.) ปัญหาทุกอย่าง... เดี๋ยวมันก็ผ่านไป !
6.) อย่าโทษคนอื่น “เวลามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นให้โทษตัวเองเสมอ”
7.) แบ่งปันสิ่งที่เรามี... ให้คนอื่นบ้าง !
8.) ในโลกนี้ไม่มีใครถูก & ผิด มีแค่คนที่มีมุมมองไม่เหมือนกันเท่านั้น
9.) ลดความรู้สึกชอบ & ไม่ชอบในตัวเอง...ไม่ว่ากับสิ่งใด วางตัวให้เป็นกลางกับทุกสิ่งที่เห็น
10.) ไม่มีใคร “Perfect” …แค่ทุกคนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ยอมรับในความแตกต่างของคนอื่น
11.) ให้เกียรติคนอื่น !
12.) เก็บคำแนะนำดีๆ... ไว้ให้กับคนที่เขาต้องการฟังเท่านั้น
13.) เชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง !
14.) ขอบคุณทุกๆอย่างที่เข้ามาในชีวิต
15.) เชื่อว่าอะไรที่เราทำ จะส่งผลต่อตัวเราโดยตรง (ทำดีได้ดี ทำเลวได้เลว)
16.) รู้หน้าที่ของตัวเอง ...และทำมันให้ดีที่สุด
17.) จงเป็นคนที่เรียนรู้ตลอดชีวิต

ขอบคุณ คนที่ทุกคนที่ผมเจอในชีวิตนี้
ขอบคุณ อดีต และ ปัจจุบัน
ขอบคุณ หนังสือทุกเล่ม
ขอบคุณ ชีวิตนี้...

จากหนังสือ “ Rules of life “

เรียบเรียง : Traveller’s trade
23.05.2013 (18.11น.)

วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ถ้าใครได้อ่านเนื้อหาที่ผมเคยบอกอยู่บ่อยๆ... 

ผมมักจะบอกว่า... เทรดเดอร์ทุกคน 
อย่างน้อยควรจะรู้ว่าสไตล์การเทรดของตัวเองเป็นแบบไหน จะได้โฟกัส และพัฒนาให้ถูกจุด 

เทรดเดอร์ที่ไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่เพราะไม่รู้ว่าตัวเองเทรดแบบไหน จึงไม่สามารถมีระบบการเทรดที่เหมาะสมกับตัวเองได้ 

วันนี้ผมจะอธิบายวิธีการเทรดแบบต่างๆ ให้ได้ลองพิจารณาดูว่า เราเหมาะกับวิธีการเทรดแบบไหน แบ่งเป็น 6 แบบ

1. ซื้อ และ ถือยาว (Buy-and-Hold Investing)
เป้าหมาย : ถือยาวเผื่อหวังกำไรส่วนต่าง
วิธีการวิเคราะห์ : วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ทั้งสภาพเศรษฐกิจ, กลุ่มอุตสาหากรรม และ บริษัท
ระยะเวลาในการถือ : 1 ปีหรือมากกว่านั้น
ใช้เวลาในการวิเคราะห์ : 2-3 ชั่วโมงต่อเดือน
จำนวนครั้งในการซื้อขายหุ้น : 1-5 ครั้งต่อปี
ค่าคอมมิชชั่น : น้อยมาก
กำไรที่คาดหวังต่อปี : 15% หรือมากกว่านั้น

2. ถือหุ้นเล่นรอบ (Position Trading)
เป้าหมาย : หวังทำกำไรทุกไตรมาส
วิธีการวิเคราะห์ : ใช้การวิเคราะห์แบบกราฟ โดยใช้กราฟ Weekly/daily
ระยะเวลาในการถือ : 3-6 เดือน
ใช้เวลาในการวิเคราะห์ : 2-3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
จำนวนครั้งในการซื้อขายหุ้น : 1-5 ครั้งต่อไตรมาส
ค่าคอมมิชชั่น : น้อย
กำไรที่คาดหวังต่อปี : 25% หรือมากกว่านั้น

3. Swing Trading (สามารถเทรดด้วย Trend Following ได้)
เป้าหมาย : หวังทำกำไรทุกเดือน
วิธีการวิเคราะห์ : ใช้การวิเคราะห์แบบกราฟ โดยใช้กราฟ daily/hourly
ระยะเวลาในการถือ : 5-30 วัน
ใช้เวลาในการวิเคราะห์ : 1-3 ชั่วโมงต่อวัน
จำนวนครั้งในการซื้อขายหุ้น : 5-30 ครั้งต่อเดือน
ค่าคอมมิชชั่น : กลางๆ
กำไรที่คาดหวังต่อปี : 40% หรือมากกว่านั้น

4. Overnight Trading
เป้าหมาย : หวังทำกำไรทุกสัปดาห์
วิธีการวิเคราะห์ : ใช้การวิเคราะห์แบบกราฟ โดยใช้กราฟ daily/hourly
ระยะเวลาในการถือ : มากสุด 2 วัน
ใช้เวลาในการวิเคราะห์ : 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
จำนวนครั้งในการซื้อขายหุ้น : 2-5 ครั้งต่อวัน
ค่าคอมมิชชั่น : กลางๆ
กำไรที่คาดหวังต่อปี : 50% หรือมากกว่านั้น

5. เดย์เทรด (สามารถเทรดด้วย Trend Following ได้)
เป้าหมาย : หวังทำกำไรทุกวัน
วิธีการวิเคราะห์ : ใช้การวิเคราะห์แบบกราฟ โดยใช้กราฟแบบ intraday
ระยะเวลาในการถือ : หลักนาที ถึง ชั่วโมง จะขายก่อนจบวัน
ใช้เวลาในการวิเคราะห์ : 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
จำนวนครั้งในการซื้อขายหุ้น : มากกว่า 5 ครั้งต่อวัน
ค่าคอมมิชชั่น : สูงมาก
กำไรที่คาดหวังต่อปี : 60% หรือมากกว่านั้น

6. เทรดสั้นมาก เปิด-ปิดเมื่อราคาเปลี่ยนทิศทาง (Scalping)
เป้าหมาย : หวังทำกำไรทุกวัน
วิธีการวิเคราะห์ : ดูทิศทางราคาระยะสั้น , ดู bid-offer (Tape reading)
ระยะเวลาในการถือ : หลักวินาที ถึง นาที
ใช้เวลาในการวิเคราะห์ : 8-12 ชั่วโมงต่อวัน
จำนวนครั้งในการซื้อขายหุ้น : มากกว่า 12 ครั้งต่อวัน
ค่าคอมมิชชั่น : สูงมากๆๆๆ
กำไรที่คาดหวังต่อปี : 70% หรือมากกว่านั้น

ทั้ง 6 วิธีนี้ อ้างอิงจากหนังสือ "Trend trading for a living"
ดังนั้น เนื้อหาบางอย่าง อาจไม่ตรงกับตลาดของไทย... ลองปรับใช้ดูนะครับ

ท้ายที่สุดนี้... หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะนำไปปรับใช้ได้กับชีวิตจริงได้ และสามารถนำไปต่อยอด ทำให้ทุกคนเก่งขึ้นได้ในอนาคตครับ

ขอบคุณที่ติดตามครับ 

credit : จากเนื้อหาในหนังสือ "Trend trading for a living"

เรียบเรียง : Traveller's trade
22.05.2013 (19.45น.)
จากหนังสือเล่มล่าสุดที่ผมกำลังอ่านอยู่... " Trend Trading for a living "

ซึ่งผมอยากจะทำเสนอ...10 นิสัยที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในการเทรด
(THE 10 HABITS OF HIGHLY SUCCESSFUL TRADERS)

1. ก่อนจะเปิด Position ต้องหาเหตุผลในการเปิดให้ได้อย่างน้อย 3 ข้อ (Follow the Rule of Three)
2. ตัดขาดทุนให้เป็น (Keep losses small)
3. หลังจาก...ตลาดปิด ต้องพิจารณาจุด Stop และ Target ทุกวัน (Adjust stops and targets at the end of the day)
4. อย่าสิ้นเปลืองกับค่าคอมมิสชั่น (Keep commissions low) :
5. หาจังหวะเก็บหุ้นตอนใกล้ปิดตลาด (Amateurs at the open, pros at the close)
6. ต้องรู้ว่าทิศทางของตลาดตอนนี้กำลังไปทางไหน (Know the general market trend, and trade accordingly)
7. จดบันทึกการเทรด...เพื่อเก็บไว้ประเมินตนเอง (Write down every trade)
8. ห้ามถัวขาดทุน ! (Never average down on a losing position)
9. ห้ามเทรดSizeที่ใหญ่เกินไป (Never overtrade)
10. นำ 10% ของกำไรที่ได้ นำไปบริจาค (Give at least 10 percent of all trading earnings to charity)

จริงๆแล้ว กฏของการเทรดมีอยู่เยอะแยะมากมาย...
จงพยายามทำความเข้าใจกฏต่างๆ... และปรับใช้ให้ตรงกับนิสัยของเราให้มากที่สุด

- Traveller's trade
21.05.2013 (19.02น.)

วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เราทุกคนมีเวลาเท่ากัน...คือ 86,400 วินาที 

...โดยที่ไม่สามารถสะสมยอดเวลาไปใช้วันพรุ่งนี้ได้ 
หรือเบิกเวลาของวันพรุ่งนี้มาใช้วันนี้ได้ 

" จงใช้เวลาที่มี...ในวันนี้...ให้มีคุณค่าที่สุด "

Present แปลว่า...ของขวัญ
Present แปลว่า...ปัจจุบัน

"เวลาที่มีวันนี้" ... คือของขวัญที่ดีที่สุด !
เวลาที่เราล้มเหลว เราจะหาตัวเองเจอ !

และการลงทุน..สิ่งที่สำคัญที่สุด 
คือ... " ต้องหาตัวเองให้เจอว่าเราเหมาะกับวิธีไหน... "

- ภาววิทย์ กลิ่นประุทุม 
ในงาน TMF2011 ที่จังหวัดเชียงใหม่
..Mind set ที่ดี ของเทรดเดอร์…

หลังจากที่อ่านหนังสือ “A trader’s money management system”
ได้มีการกล่าวถึง “Mind set” ที่ดีของเทรดเดอร์ไว้ดังนี้

1. ไม่เอาเงินมาเป็นที่ตั้ง (Not caring about the money)
2. ยอมรับความเสี่ยงในการเทรดหรือลงทุนได้ (Acceptance of the risk in trading and investing)
3. ไม่ว่าเทรดได้หรือเสียก็สามารถทำใจให้เป็นปกติได้ (Winning and losing trades accepted equally from an emotional standpoint)
4. สนุกกับการเทรด (Enjoyment of the process)
5. ไม่คิดว่าเรากำลังเป็นเหยื่อของตลาด (No feeling of being victimized by the markets)
6. พัฒนาทักษะการเทรดอยู่เสมอ (Always looking to improve skills)
7. ถ้าได้กำไรจากการเทรด ให้มองเป็นการพัฒนาของ “ทักษะในการเทรด” (Trading and investing account profits now accumulating and flowing in as skills improve)
8. เปิดใจรับฟังความเห็นของคนอื่นบ้าง (Open minded; keeping opinions to a minimum)
9. ไม่โกรธ ไม่โทษตลาด (No anger)
10. เรียนรู้จากทุกการเข้า,ออก position (Learning from every trade or position)
11. เราไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชนะตลาดเสมอ (No need to conquer or control the market)
12. รู้สึกมีความมั่นใจในการเทรด (Feeling confident and feeling in control)
13. เราไม่สามารถกำหนดทิศทางของตลาดได้ (A sense of not forcing the markets)
14. รับผิดชอบในทุกๆการเทรดว่าเป็นเพราะตัวเราเอง (Taking full responsibility for all trading results)
15. มีจิตใจสงบ ไม่ว้าวุ่น ระหว่างการเทรด (Sense of calmness when trading)
16. ให้ความสนใจสิ่งที่เห็น ณ ปัจจุบันเท่านั้น (Ability to focus on the present reality)
17. ไม่ต้องคาดเดาตลาด ว่ามันจะ Break หรือเคลื่อนที่ไปทางไหน (Not caring which way the market breaks or moves)

ทั้ง 17 ข้อนี้คือ Mindset ที่ดีของเทรดเดอร์ที่ควรจะมี

แปลข้อมูลมาจาก A trader’s money management system บท ” The trader’s Mindset “

Credit…Traveller’s trade
28.03.2013 (22.28 น.)

นั่งเล่นเนทอยู่เพลินๆ เจอหัวข้อนี้น่าสนใจเลยตั้งใจจะเข้าไปอ่าน
ปรากฏว่า เป็นบทความที่เราเคยเขียนไว้เองนี่หน่า

ยังไงก็ขอบคุณ เจ้าของ Blog ที่นำบทความของผมไปแบ่งปันให้คนอื่นได้อ่านต่อ และให้เกียรติเจ้าของบทความเป็นอย่างดี :D

" ในวันนี้ ผมเขียนเพจนี้ครบ 300 วันแล้ว " มันเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ !

ผมไม่เคยคิดว่าผมจะเขียนไปอีกนานเท่าไหร่
ตราบใดที่ผมยังมีความสุขกับการแบ่งปันความรู้ จากประสบการณ์
จากการอ่านหนังสือ จากสิ่งที่ได้พบเห็นและรู้สึกรอบตัว

ผมก็ยังจะถ่ายทอดผ่านตัวอักษรให้ทุกคนได้รับรู้เรื่องราวที่ผ่านเข้ามา
คอยเป็นบทเรียนสำหรับตัวผม และสามารถเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับแฟนเพจทุกคนด้วย

300 วันที่ผ่านมา ผมได้รับสิ่งดีๆจากการเขียนเพจนี้เยอะแยะมากมาย
...โดยที่ผมไม่เคยคาดหวังว่าผมจะรับสิ่งเหล่านี้มาก่อน

การเขียนเพจนี้ทำให้ผมมีวินัยมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ทำให้ผมขยันที่จะอ่านหนังสือ เพื่อจะได้เอาความรู้มาแบ่งปันเพื่อนๆทุกคน
ทำให้ผมได้คุยกับใครหลายๆคนที่ผมไม่เคยรู้...ว่ามีคนเก่งๆดีๆอีกหลายคนที่มีความคิดคล้ายๆเรา

ผมดีใจมากจริงๆ ผมดีใจมากจริงๆ

ผมจะยังเขียนเพจนี้ต่อไป
และหวังว่าจะเดินไปข้างหน้าพร้อมทุกๆคนแบบนี้ต่อไป

ขอบคุณมากๆครับ

- Traveller's trade
19.05.2013 (11.24น.)

" การเริ่มต้นเทรดจาก Size เล็กๆ เป็นคำตอบที่ดีที่สุดของเทรดเดอร์หน้าใหม่ "

การเริ่มต้นจาก Size เล็กๆ เป็นวิธีที่ดีที่จะควบคุมความเสี่ยง 
เพื่อไม่ให้ตายออกจากตลาดก่อนที่จะรู้วิธีการทำกำไร...

จงจำไว้ว่า !!!
ตลาดยังอยู่กับเรา พรุ่งนี้ ,อาทิตย์หน้า ,หรือ ปีหน้า 

- Traveller's trade 
19.05.2013 (08.30น.)
มั่นใจว่า ”สไตล์การเทรด” ของคุณนั้นตรงกับ ”ไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต” ?

ถ้าหากทั้งสองสิ่งที่ผม หมายถึง... นั้นคือ 
“สไตล์ในการเทรด” กับ “ไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต” นั้นมีความต่างกัน 

นั้นหมายความว่า คุณอาจจะกำลังทำอะไรที่นอกเหนือความเข้าใจและคุ้นเคยของคุณ ซึ่งสามารถส่งผลถึงการขาดทุนในเวลาต่อมาได้ 

อย่าเทรดตลอดเวลา ...ถ้าคุณยังอ่านอารมณ์ตลาดไม่ได้
อย่าเล่นเดย์เทรด ...ถ้าคณไม่มีเวลา

เลือกสไตล์การเทรด ในสิ่งที่คุณ “เข้าใจ” และ “คุ้นเคย”

จากหนังสือ “Trend trading of living”

- Traveller’s trade
18.05.2013 (19.32น.)

วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556


“การเทรด” กับ “การลงทุน” มีความต่างกัน ชัดเจนอยู่ในตัวมันอยู่แล้ว...

"การเทรด" ได้เปรียบ "การลงทุน" ในเรื่องของการทำกำไรได้ในระยะเวลาที่สั้นกว่า
แต่สิ่งที่ยากของการเทรด อยู่ในรายละเอียด...

อาชีพเทรดเดอร์ ต้องคอยมองดูการแกว่งตัวของราคา
ซึ่งแตกต่างกับการลงทุน ที่ซื้อแล้วถือ รอให้ราคาขยับขึ้นไป

ดังนั้น ทักษะนึงที่เทรดเดอร์จำเป็นต้องมีคือ “ Time Management “

- Traveller's trade
18.05.2013 (18.33น.)


พฤติกรรมแบบไหน ที่ทำให้เทรดเดอร์ มีแนวโน้มที่จะขาดทุน?

จากการสำรวจ เทรดเดอร์ที่มีแนวโน้มที่จะขาดทุน
...คือคนที่ มีความเครียดสูง และไม่รู้จักป้องกันตัวเองจากความเครียด , มองโลกในแง่ร้าย , ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง , และที่สำคัญ ไม่เคยโทษตัวเองเมื่อเทรดขาดทุน

คนที่ไม่มีแบบแผนการเทรดที่ชัดเจน ...ก็เป็นอีกกลุ่มที่มีแนวโน้มที่จะขาดทุน

นอกจากนั้นยังมี เทรดเดอร์ที่ไม่มีความอดทน
เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักจะไม่มีความอดทน ต้องทำสถานะตลอดเวลา (ซึ่งมาจากความคิดที่ว่า เขาสามารถทำกำไรได้ตลอดเวลา)

จากบทวิจัยของ "Dr. Van k. Trarp" ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการลงทุน

- Traveller's trade
18.05.2013 (16.15น.)


วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

" เทคนิคในการเทรด 9 ข้อ ของ Richard Donchian "


"  เทคนิคในการเทรด 9 ข้อ ของ Richard Donchian "

1.     ให้สังเกตการณ์เคลื่อนไหวของราคา
ถ้าหากราคาเคลื่อนตัวเป็น uptrend อย่างชัดเจน >> แล้วหลังจากนั้นเกิดการพักตัวออกด้านข้าง 
>> ให้สันนิษฐานว่า ราคาจะขึ้นได้ต่อ
ถ้าหากราคาเคลื่อนตัวเป็น downtrend อย่างชัดเจน >> แล้วหลังจากนั้นเกิดการพักตัวออกด้านข้าง 
>>ให้สันนิษฐานว่า ราคาจะลงได้ต่อ

 2. ถ้าหากราคามีการ Side way อยู่ในกรอบเป็นเวลานาน ให้สังเกตจุดที่เป็นแนวรับ และแนวต้านของกรอบนั้นไว้

เมื่อไหร่ก็ตามที่ราคาทะลุแนวต้านขึ้นไปได้ >> ให้สันนิษฐานว่า แนวต้านนั้น จะเปลี่ยนเป็นแนวรับ ในช่วงราคาถัดไปทันที
และเมื่อไหร่ก็ตาม ที่ราคาทะลุแนวรับลงมา >> ให้สันนิษฐานว่า แนวรับนั้น จะเปลี่ยนเป็นแนวต้าน ในช่วงราคาถัดไปทันทีเช่นกัน 

3.     ให้หาจังหวะในการ "เข้าซื้อ" เมื่อราคาปรับตัวลงมาแตะ Trend line

และให้ "หาจังหวะขาย" เมื่อราคาปรับตัวขึ้นไปแตะ Trend line
(ก่อนจะใช้วิธีนี้ได้ เราต้องเข้าใจหลักในการตี Trend lines ให้ถูกต้องก่อนนะครับ)


4.   >> ถ้าราคาทะลุ Trend line ที่เป็นแนวรับ ลงมาเมิ่อไหร่ ให้สันนิษฐานว่า หมด Uptrend แล้ว
>> ถ้าราคาทะลุ Trend line ที่เป็นแนวต้าน ขึ้นไปเมิ่อไหร่ ให้สันนิษฐานว่า หมด downtrend แล้ว

ถ้ามีการพักตัวที่ Trend line แล้วหลายๆครั้ง ยิ่งเพิ่มโอกาสที่ราคาจะทะลุ Trend line ได้

5. Major Trend lines เป็นตัวแทนของเทรนด์ใหญ่ 
Minor trend lines เป็นตัวแทนของเทรนด์เล็กๆ

วิธีการเทรดคือ " ให้ดูเทรนด์ใหญ่ว่าเป็น Uptrend หรือ Downtrend "

ถ้าเป็น Uptrend ... 
ให้ลาก Minor trend line ให้เป็นแนวต้าน
>> แล้วหาจังหวะ ที่ราคาBreak minor Trend line ขึ้น แล้วค่อย Long ตาม

ถ้าเป็น Downtrend 
ให้ลาก Minor trend line ให้เป็นแนวรับ 
>>แล้วหาจังหวะ ที่ราคา Break minor Trend line ลง แล้วค่อย Short ตาม

วิธีการแบบนี้ คือการเลือกเล่นทางเดียว คือเล่นในทางหลัก วิธีการนี้จำเป็นต้องใช้ความอดทน
ซึ่งตรงกันข้ามกับที่รายย่อยส่วนใหญ่กำลังทำ คือ เล่นหมดทุกทาง ทั้งขึ้นแล้วลง โดยไม่สนใจเทรนด์ใหญ่

6. รูปแบบชาร์ทแบบสามเหลี่ยม ในความเป็นจริง ราคามันสามารถ Break ไปได้ทั้งสองทาง 
...แต่ถ้าเราสังเกตดีๆ มากกว่า 70% ราคาทะลุไปทางเส้น Horizontal

ยกตัวอย่างเช่น...
>>> เมื่อเกิด ascending triangle ราคาก็มักจะ ทะลุขึ้นไปด้านบน
>>> และเมื่อเกิด descending triangle ราคาก็มักจะ ทะลุลงมาด้านล่าง
(ทั้งนี้ต้องดู Volume ประกอบด้วย เพื่อความแม่นยำในการวิเคราะห์)


7. ให้สังเกต Volume climax
เมื่อไหร่ก็ตามที่มี Volume สูงมากๆ ผิดปกติ 
จุดนั้นมักจะเป็นจุดกลับตัวของการเคลื่อนไหวที่มีมาอย่างยาวนาน

เนื่องจากแรงระเบิกที่รุนแรงของการที่สะสมของมาอย่างยาวนาน 
>>ราคาอาจจะยังสามารถขึ้นไปได้อีกนิดหน่อย

8. หลายๆคนเข้าใจว่า Gaps ที่เกิดขึ้นทุกๆครั้ง จะต้องถูกปิดเสมอไป
แต่จริงๆแล้ว Gaps บางชนิด อาจจะเป็นการเริ่มใหม่ของ Trend เลยก็ได้ 
และมันก็จะไม่ถูกปิดในระยะเวลาอันสั้น

9. ในช่วงที่ตลาดเป็น Uptrend ...เงื่อนไขในการเปิด Long position เพิ่มของผม ก็คือ...
- จะ Long หลังจากวันที่ตลาดปรับตัวลง โดยไม่สนว่าจะ ปรับลงน้อย หรือ ปรับลงมาก
- และจะมั่นใจมากขึ้น ถ้าหากการปรับตัวลงครั้งนั้น มี Volume น้อย

ในช่วงที่ตลาดเป็น Downtrend ...เงื่อนไขในการเปิด Short position เพิ่มของผม ก็คือ...
- จะ Short หลังจากวันที่ตลาดปรับตัวขึ้น โดยไม่สนว่าจะ ปรับขึ้นน้อย หรือ ปรับขึ้นมาก
- และจะมั่นใจมากขึ้น ถ้าหากการปรับตัวขึ้นครั้งนั้น มี Volume น้อย 

** ขอบคุณ Richard Donchian ที่แบ่งปันไอเดียในการเทรดให้ทุกคนได้อ่าน
- Traveller's trade
18.05.2013 (10.33น.)






จากที่เมื่อวานผมบอกไว้ว่า... เรื่องที่ผมจะเล่าคือ 

" อีก 9 ข้อที่เป็นเทคนิคในการเทรดของ Richard Donchian "

ยังไงวันนี้ได้อ่านแน่นอน !

ผมจะพยายามแปลออกมาเป็นภาษาไทยให้ทุกคนอ่านได้ง่ายๆ 
...และเข้าใจกับสิ่งที่ Richard Donchian พยายามจะแนะนำ

- Traveller's trade
18.05.2013 (07.49น.)
ตั้งแต่เมื่อวานเป็นต้นมา... 
ผมตั้งใจจะตื่นพร้อมพระอาทิตย์ให้ได้ทุกวัน 

ในวันนี้พระอาทิตย์ขึ้นที่กรุงเทพประมาณ 5.51 น. 

ผมตื่นก็จริงครับ แต่ยังกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียง 

วันนี้ถือว่าทำตามเป้าหมายได้ครึ่งเดียว
ไม่บรรลุเป้าหมาย พรุ่งนี้เอาใหม่ เป้าหมายเดิม !

ผมจะตื่นให้ไหว :))

ให้ดูบรรยากาศที่ศาลาที่บ้านผม
ผมรู้สึกชอบตัวเองตอนนี้มากๆเลย... ที่ได้นั่งอยู่ในที่ที่บรรยากาศดีขนาดนี้

- Traveller's trade
18.05.2013 (07.27น.)

กฏในการเทรดข้อที่ 11 ของ "Richard Donchian"

การดูอารมณ์ของตลาดในเวลานั้นๆ ก็สำคัญไม่น้อยกว่าการดูปัจจัยพื้นฐาน
(วิเคราะห์กราฟ + พื้นฐาน ไปพร้อมๆกัน) 

นี่เป็นกฏพื้นฐานข้อสุดท้าย จาก 11ข้อ ของ Richard Donchian

แล้วพรุ่งนี้... 
ผมจะมาเล่าให้ฟังกับอีก 9 Technical Guidelines ของ Richard Donchian

ติดตามกันต่อพรุ่งนี้นะครับ 

- Traveller's trade
17.05.2013 (17.30น.)
กฏในการเทรดข้อที่ 10 ของ "Richard Donchian"

ถ้าหากจะเทรดสินค้าตัวไหน... 
ต้องเข้าใจว่า... อะไรคือปัจจัยหลัก ในการขึ้น,ลง ของราคา 

- Traveller's trade 
17.05.2013 (17.30น.)
กฏในการเทรดข้อที่ 9 ของ "Richard Donchian"

" ห้ามฝืนเทรนด์ "

- Traveller's trade 
17.05.2013 (16.49น.)
กฏในการเทรดข้อที่ 8 ของ "Richard Donchian"

...ในการซื้อ เราควร "ตั้งราคาในการซื้อ" (Limit order)
แต่ตอนขาย เราควร "ขายโดยไม่เกี่ยงราคา" (Market price)

- Traveller's trade 
17.05.2013 (16.23น.)
กฏในการเทรดข้อที่ 7 ของ "Richard Donchian"

เนื่องจากกฏ “ law of percentages “ 
“ เวลาที่เทรดในขาลง ควรจะเทรดsize ที่ใหญ่กว่าการเทรดในขาขึ้น “

ยกตัวอย่างเช่น...

ถ้าราคาขึ้น จาก 40 ไป 50 เราสามารถทำกำไรได้ 25%
... แต่ถ้าเป็นขาลง จาก 50 ลงมา 40 เราสามารถทำกำไรได้เพียง 20%

- Traveller's trade 
17.05.2013 (16.19น.)