วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

3 สิ่งที่คุณต้องรู้ เมื่อคุณจะเริ่ม...เทรดหรือลงทุน

3 สิ่งที่คุณต้องรู้ เมื่อคุณจะเริ่ม...เทรดหรือลงทุ

1.) การปกป้องเงินต้น (Capital Preservation)

ไม่ว่าจะเป็น จอร์จ โซรอส หรือ วอร์เร็น ปัฟเฟตต์ ทั้งสองมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือ... 

ทั้งคู่ร่ำรวยมาจากการลงทุนหรือการเทรดเพียงอย่างเดียว ไม่มีธุรกิจอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง และเขาทั้งคู่เริ่มต้นจากการที่ไม่มีอะไรเลย

จอร์จ โซรอส เป็นเทรดเดอร์ที่โด่งดังทั้งในตลาด Forex และ ตลาดฟิวเจอร์ 
ในขณะที่วอร์เร็น บัฟเฟตต์ โด่งดังขึ้นมาจากการซื้อธุรกิจที่มีมูลค่าต่ำกว่าที่เขาประเมินไว้ แล้วรอจนถึงวันที่มันกลับมาสู่มูลค่าจริงของมัน

เทรดเดอร์และนักลงทุนส่วนใหญ่ มักจะคิดว่า... เป้าหมายในการลงทุนส่วนใหญ่ของเขา คือ การทำกำไรได้มากๆ

แต่กฎของแรกที่สำคัญที่สุดของทั้ง โซรอส และ บัฟเฟตต์ ก็คือ "การไม่สูญเสียเงินต้นไป"

“ อยู่รอดให้ได้ก่อน แล้วการมีกำไรจะตามมาเอง “ – จอร์จ โซรอส

“ กฎในการลงทุน ข้อที่1 ห้ามขาดทุน ข้อที่2 ห้ามลืมกฎข้อที่หนึ่ง “ – วอร์เร็น บัฟเฟตต์

มันอาจจะฟังดูขัดๆหู ที่ผมบอกว่า... นักลงทุนที่ดีควรจะต้องป้องกันเงินต้นของตัวเองก่อน

ผมจะอธิบายให้ฟังว่า ทำไมการป้องกันเงินต้น ถึงสำคัญมากขนาดนี้..

คุณลองคิดง่ายๆก็ได้ ว่า ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณขาดทุนไป 50%
นั้นหมายความว่า คุณต้องทำกำไร 100% เพื่อที่จะ cover loss ทั้งหมด
ซึ่งนั้นมันไม่ก็ไม่ง่ายเลย นอกจากจะเสียเงินต้นแล้ว ถึงแม้ว่าคุณจะเอาเงินนั้นกลับมาได้ คุณก็จะต้องเสียเวลาในการแก้ขาดทุนก้อนนั้น

มันจะดีกว่าไหม... ถ้าคุณจะขาดทุนให้น้อย เพื่อที่จะไม่ต้องเสียเวลาที่จะแก้ขาดทุน

การปกป้องเงินต้น จะต้องเป็นกฎหลักของนักลงทุนตลอดไป ไม่ใช่แค่กฎของการเทรดในแต่ละครั้ง...

ก่อนจะเข้าเทรดทุกครั้ง เราต้องรู้ Stop loss เสมอ เพื่อปกป้องความเสี่ยง ด้วยวิธีอะไรก็ได้ที่ถูกจริตกับเรา !

2.) การควบคุมความเสี่ยง (Risk management)

ความเสี่ยงในที่นี้สามารถเกิดขึ้นได้ จาก “การกระทำ” และ “การไม่กระทำ” ของเรา ดังนั้น จริงๆแล้ว ความเสี่ยงจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ !

คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า "การลงทุน" หรือ "การเทรด" ในตลาดแห่งนี้ มีแต่ความเสี่ยง แต่ในความคิดผม ผมว่าเขาดูลำเอียงไปหน่อยที่พูดแบบนี้

ก่อนอื่นเลย เราต้องเข้าใจคำว่าความเสี่ยงก่อน...
"ความเสี่ยง" ก็คือ ความไม่แน่นอน

ซึ่งปัจจัยที่ทำให้มันเกิดความไม่แน่นอนก็มีหลากหลายเหตุผล...
หนึ่งในปัจจัยหลักก็คือการกระทำของตัวเราเอง

ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราเกิดความเสี่ยงมากๆ
ก็คือ การที่เราอยากได้ผลตอบแทนสูงๆ นั้นก็เป็นเหตุผลที่จะทำให้เราเสี่ยงมากขึ้นไปโดยปริยาย

นักลงทุนหรือเทรดเดอร์ที่มีฝีมือ เขามักจะควบคุมความเสี่ยงให้เกิดขึ้นกับเขาให้น้อยที่สุด

ตรงกันข้ามกับเทรดเดอร์มือใหม่ ที่เพิ่งเข้ามาในสนามการลงทุน
พวกเขาคิดว่าการลงทุนหรือการเทรดในสนามแห่งนี้นั้นเต็มไปด้วยความเสี่ยงที่สูง ซึ่งเขาคิดถูกต้องนะ แต่ไม่ถูกทั้งหมด... ที่จริง เขายังไม่เข้าใจการทำงานของตลาดอย่างดีเพียงพอ ที่ว่า...

- เขาสามารถเรียนรู้ที่จะทำกำไรโดยควบคุมความเสี่ยงได้
- จะควบคุมอารมณ์อย่างไรให้มีวินัยในการเทรด

สำหรับใครที่ต้องการกำไรก้อนใหญ่ๆ คุณไม่จำเป็นต้องเสี่ยงสูงๆ เสมอไป คุณสามารถควบคุมความเสี่ยงได้ด้วยวิธีการต่างๆมากมาย ซึ่งคุณก็ต้องไปศึกษาต่อด้วยตัวเองอีกที

เช่น ถ้าเมื่อไหร่ที่ตลาดเริ่มเปลี่ยนทิศไม่เป็นไปตามทางที่คุณคิด คุณต้องปิด position ของคุณทันที

“การควบคุมความเสี่ยงเป็นหัวใจหลักของการมีกำไรในระยะยาว”

3) ลงทุนในการศึกษาหาความรู้ (Invest In Your Knowledge)

ระดับความรู้ของเราแบ่งเป็น 4 ระดับ :

- ไม่รู้...ว่าตัวเองไม่รู้
- รู้...ว่าตัวเองไม่รู้
- รู้...ว่าตัวเองรู้ และก็รู้...ว่าอะไรที่ตัวเองไม่รู้
- สัญชาตญาณ

เทรดเดอร์มือใหม่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับที่ 1 ก็คือ ไม่รู้... ว่าที่จริงแล้วสิ่งที่เรารู้ เราไม่ได้รู้มันจริงๆ

พวกเขามักจะขาดทุนจากการลงทุน เพราะ พวกเขาไม่รู้ว่าที่จริงแล้วความรู้และประสบการณ์ที่เขามีนั้นไม่สามารถทำให้เขาอยู่รอดได้ในตลา

ถึงตอนนี้ถ้าคุณเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในตลาด ไม่ว่าจะเกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้นในการเทรดของคุณ... ขอให้คุณยอมรับความผิดพลาดนั้น แล้วบอกตัวเองว่า... " วันนี้ผมพลาดเพราะผมไม่รู้ แต่ต่อไปผมรู้แล้ว ผมจะไม่ทำผิดพลาดซ้ำสองอีก "

เหมือนอย่างที่ วอร์เร็นบัฟเฟตต์ได้บอกไว้ว่า...
“ความเสี่ยงเกิดขึ้น เพราะเราไม่รู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่”

- Traveller's trade
03.07.2013 (19.14น.)
แปลบทความจาก http://www.dailymarkets.com/investing-basics/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น